จังหวัดตากนอกจากประเพณีลอยกระทงเช่นเดียวกับจังหวดอื่นทั่วไปแล้ว ยังมีการลอยกระทงสายที่สืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านาน เริ่มแรกของประเพณีเกิดขึ้นที่อําเภอบ้านตากและเป็นรูปแบบในการจัดประเพณีลอยกระทงสายในอําเภอใกล้เคียง ปัจจุบันประเพณีลอยกระทงสาย ได้รับการสนับสนุนและเผยแพร่จัดงานในระดับจังหวัด และถือได้ว่าเป็นประเพณีที่เป็นเอกลกษณ์ ของจังหวัดตาก และเป็นที่ยินดีกับชาวจังหวัดตากอย่างยิ่งที่การต้อนรับผู้นํา เอเปค 21ประเทศในการลอยกระทงสายของจังหวัดตากและการลอยโคมของจังหวัดเชียงใหม่ได้ร่วมแสดงในราชพิธีพยหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ ทําใหประเพณีลอยกระทงสายของจังหวัดตากเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศและขยายไประดับโลก
การลอยกระทงสายนี้มีการพัฒนาการคัดมาจากประเพณีการลอยกระทงเป็นสิ่งที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่น
ที่มีความพรอมด้วยปัจจัยวัสดุธรรมชาติ คือกะลามะพร้าว
ซึ่งมะพร้าวมีมากในภูมิภาคนี้ซึ่งเห็นได้ จากอาหารพื้นเมืองของชาวจังหวดตากที่มีส่วนประกอบของมะพร้าวเป็นสําคัญ
อาหารที่เป็นที่รู้จักกันดีได้แก่ ไส้เมี่ยง เมี่ยงคำ เป็นต้น
จากวัสดุธรรมชาติที่ใช้ปัจจัยเอื้อก่อให้ เกิดความคิดสร้างสรรค์ ผนวกกับการมีนิสัยที่รักสนุกสนานรื่นเริง
จึงเกิดประเพณีลอยกระทงสายขึ้นเป็นผลผลิตที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่น
การจัดประเพณีลอยกระทงสายแต่เดิมเริ่มที่อําเภอบ้านตากนั้น
จะตรงกับช่วงวันเพ็ญ 15ค่ำของทุกปี หลังจากที่จัดงานลอยกระทงเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้นการจัดลอยกระทงสายจึงจัดกันในแรม 11 ค่ำ มีกิจกรรมที่สําคัญคือ ในวันเพ็ญ
ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตอนเช้าจะทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ ตอนบ่ายจะมีการแข่งเรือของแต่ล่ะหมู่บ้าน
ส่วนในช่วงตอนเย็นจะมีการจุดประทีปที่บ้านและลอยกระทงของแต่ละคน ส่วนในวันแรม 1
ค่ำ เดือน 12 ตอนพลบค่ำ พระสงฆ์และชาวบ้านมาสวดมนต์และปล่อยโคมลอย
เมื่อเสร็จพิธีจึงมีการปล่อยกระทงสาย การลอยกระทงสายนั้นประกอบด้วย 3 ประเภทด้วยกัน คือ กระทงนํา กระทงตาม
และกระทงปิดท้าย กระทงนํา จะประดิษฐ์ประดอยอย่างสวยงามบนแพหยวกกล้วย
ตัวกระทงจะทำด้วยใบตองหรือจากวัสดุธรรมชาติและจะลอยเป็นอันดับแรก
กระทงตาม จะมีส่วนประกอบด้วยตัวกระทงและไส้กระทง ตัวกระทงจะทําด้วยกะลามะพราวแห้งที่
ไม่มีรู ส่วนไส้กระทงมีหลากหลายชนิด เช่น ขี้ไต้ แกนข้าวโพดหรือซางข้าวโพด
กาบ(เปลือก)มะพร้าว ตีนกา ผ้าชุบน้ำมัน เป็นต้น กระทงปิดท้าย
จะมีลักษณะคล้ายกระทงนํา แต่เล็กกว่าและลอยหลังจากที่ลอยกระทงตาม(กะลามะพร้าว)เรียบร้อยแล้ว
จากลักษณะภูมิประเทศของอำเภอบ้านตาก
และจังหวัดที่ใกล้ชิดกับแม่น้ำมีการพัฒนาบ้านเมืองมานานแต่ครั้งกรุงสุโขทัย
และการตั้งแหล่งถิ่นฐานของชุมชนของคนในพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับแหลงน้ำ จากสภาวะแวดล้อมทางธรรมชาติที่เป็นปัจจัยเอื้อผนวกกับความสามารถในภูมิปัญญาทองถิ่นจึงเกิดเป็นประเพณีที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
อันสะท้อนให้ เห็นถึงความ รักใคร่สามัคคีกันในหมู่คณะที่มีมาแต่โบราณจวบจนปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น